โรคข้อเข่าเสื่อม

โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis)
ได้แก่ โรคที่เกิดจากข้ออักเสบเนื่องจากกระดูกอ่อนของ ข้อเสื่อม โดยกระดูกอ่อนของข้อจะอยู่ในส่วนปลายของกระดูกแต่ละชิ้นที่ประกอบกันเป็นข้อ กระดูกอ่อน มีหน้าที่ปกป้องไม่ให้กระดูกแต่ละชิ้นบดเบียดเสียดสีกันเมื่อข้อเคลื่อนไหว และช่วยให้ข้อเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วขึ้น ดังนั้นเมื่อกระดูกอ่อนเหล่านี้เสื่อม กระดูกข้อแต่ละชิ้นจึงบดทับเสียดสีกัน โดยเฉพาะเมื่อมีการเคลื่อนไหว ทำให้อักเสบ ส่งผลให้เกิดอาการปวดข้อ มีเสียงดังในข้อ และข้อเคลื่อนไหวได้จำกัด หรือมีข้อยึดติด

เมื่อกระดูกเสียดสีกันมากขึ้นหรือ เสื่อมมากขึ้น หินปูนก็จะจับส่วนที่เสื่อมนั้น เกิดเป็นปุ่มกระดูกหรือเงี่ยงกระดูกจับตามข้อส่งผลให้กระดูกเสียดสีกันมากขึ้นไปอีก ข้อจึงแข็งยึดติดกันมากกว่าเดิม อาการปวดข้อเพิ่มขึ้น และเคลื่อนไหวข้อได้น้อยลงตามลำดับ


นอกจากนั้น กระดูกอ่อนและกระดูกที่เสื่อมเหล่านี้อาจหลุดเป็นชิ้นเล็กๆ เข้าไปอยู่ในข้อ เพิ่มการเสียดสีระคาย ส่งผลให้ปวดข้อมากขึ้นโรคข้อเสื่อมเกิดได้กับทุกข้อ แต่พบบ่อยในข้อที่ต้องลงน้ำหนักหรือรองรับน้ำหนัก ได้แก่ ข้อเข่า (พบได้บ่อยที่สุด) ข้อมือ ข้อไหล่ ข้อสะโพก ข้อกระดูกคอ และข้อกระดูกสันหลัง


โรคข้อเสื่อมเป็นโรคข้อที่พบได้บ่อย มักเกิดในอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป และพบสูงขึ้นตามอายุที่มากขึ้น เนื่องจากการเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งรวมทั้งเซลล์กระดูกและกระดูกอ่อน แต่อาจพบได้บ้างในเด็กหรือวัยหนุ่มสาว สาเหตุจากพันธุกรรมหรืออุบัติเหตุต่อข้อโดยตรง


สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

ประกอบอาชีพที่ต้องใช้ข้อตลอดเวลา เช่น นักกีฬาอาชีพ
การเล่นกีฬาบางชนิดที่ต้องใช้ข้อตลอดเวลา เช่น ยกน้ำหนัก
อายุ ยิ่งอายุมากขึ้น โอกาเกิดข้อเสื่อมก็ยิ่งสูงขึ้น ด้วยเหตุผลดังได้กล่าวแล้วได้รับอุบัติเหตุที่ข้อโดยตรง เช่น จากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์โรคอ้วน เพราะเพิ่มการเสียดสีของกระดูกข้อต่างๆ จากการรองรับหรือการกดของน้ำหนักตัวโรคข้ออักเสบจากการติดเชื้อโรคเบาหวาน เพราะเป็นโรคที่เพิ่มการอักเสบเรื้อรัง ต่อเนื้อเยื่อทุกชนิดรวมทั้งของข้อโรคของกล้ามเนื้อ เพราะส่งผลให้ข้อต้องช่วยรับน้ำหนักต่างๆ มากขึ้น โรคแต่กำเนิดที่ทำให้มีกระดูกอ่อนผิดปกติโรคทางพันธุกรรม เพราะพบข้อเสื่อมได้สูงขึ้นเมื่อมีคนในครอบครัวเป็นโรคนี้อาการปวดหรือเจ็บข้อที่เกิดโรค รวมทั้งกดแล้วเจ็บ ข้อนั้นๆ บวม อาจมีน้ำในข้อแต่ไม่มีอาการแดง ร้อน (ถ้าไม่มีการติดเชื้อของข้อร่วมด้วย)ข้อยึดโดยเฉพาะตอนเช้าหลังตื่นนอน เมื่อนั่งนานๆ แล้วลุกขึ้น ไม่สามารถนั่งได้ทุกท่าหรือนั่งกับพื้นไม่ได้ได้ยินเสียงกรอบแกรมจากข้อนั้นๆ ขณะเคลื่อนไหวรูปลักษณ์ข้อผิดปกติการวินิจฉัย

แนวทางการรักษา
          แนวทางการรักษาโรคข้อเสื่อมได้แก่ การรักษาตามปัจจัยเสียงที่ดูแลได้ เช่นการควบคุมน้ำหนักลดการใช้ข้อนั้น ทำกายภาพบำบัดฟื้นฟูข้อ กินยาบรรเทาปวดชนิดต้านการอักเสบเจาะน้ำออกจากข้อเมื่อมีน้ำในข้อ และอาจต้องผ่าตัด เช่น ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเขาเมื่อมีอาการมากและรักษาด้วยวิธีต่างๆ แล้วทั้งนี้ขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์ผลข้างเคียงผลข้างเคียงจากโรคข้อเสื่อมคือ อาการปวดข้อเรื้อรัง และความพิการเนื่องจากใช้ข้อไม่ได้ตามปกติ

ความรุนแรงของโรค

โรคข้อเสื่อมไม่เป็นสาเหตุให้เสียชีวิต แต่เป็นโรคเรื้อรังซึ่งจำกัดการใช้ชีวิตตามปกติจึงส่งผลให้คุณภาพชีวิตลดลง และมีผลกระทบต่ออารมณ์และจิตใจ

การดูแลตนเองและการพบแพทย์

เข้าใจสาเหตุและกลไกการเกิดโรค ยอมรับถึงผลกระทบต่อการใช้ชีวิตรักษาสุขอนามัยพื้นฐาน เพื่อการมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี ลดปัญหาด้านอารมณ์ จิตใจและลดโอกาสข้อติดเชื้อ ลดและควบคุมน้ำหนัก ลดการใช้ข้อ เช่น เปลี่ยนชนิดของกีฬาจากเล่นเทนนิสเป็นว่ายน้ำ เพราะลดการลงน้ำหนักบนข้อ หรือลดการขึ้นลงบันไดทำกายภาพบำบัดฟื้นฟูข้อตามที่แพทย์ พยาบาล และนักกายภาพบำบัดแนะนำกินยาบรรเทาอาการปวดตามที่แพทย์แนะนำอย่างถูกต้อง เพราะยาบรรเทาปวดและยาต้านการอักเสบของข้อมีผลข้างเคียงสำคัญ คือ เป็นสาเหตุให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารเลือดออกในกระเพาะอาหารพบแพทย์ตามนัดเสมอ และรีบพบแพทย์ก่อนนัดเมื่ออาการต่างๆ แย่ลง หรือมีอาการผิดปกติไปจากเดิมหรือมีความกังวลในอาการรีบพบแพทย์เมื่อ ข้อบวมมาก ปวดมากขึ้น เดิมไม่ได้เนื่องจากข้อยึดติดมากขึ้นหรือปวดข้อมีอาการของข้ออักเสบติดเชื้อ ได้แก่ มีไข้ ปวดข้อ ข้อบวม แดง ร้อน มีผลข้างเคียงจากยาบรรเทาปวดและยาต้านการอักเสบ ได้แก่ ปวดท้องบริเวณลิ้นปี่มากกว่าที่เคยรีบพบแพทย์เป็นการฉุกเฉินเมื่อปวดท้องรุนแรงอุจจาระเป็นเลือดมีสีดำเหมือนยางมะตอยเพราะเป็นอาการจากผลข้างเคียงของยาต้านการอักเสบส่งผลให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร ซึ่งเมื่อเลือดถูกกรดในกระเพาะอาหารจึงเปลี่ยนเป็นสีดำ

การป้องกัน

ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงได้ ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกิดโรคอ้วนเลือกประเภทการออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่น ว่ายน้ำ เมื่อเล่นกีฬาหรือมีอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อควรเรียนรู้วิธีการที่จะดูแลรักษาข้อ เช่น วิธียกของหนักหรือใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ช่วยพยุงข้อตามที่แพทย์และนักกายภาพบำบัดแนะ